ภาพจำของ Youtube ในช่วงเวลาที่ผ่านมาว่า จะเป็นรูปแบบที่ ต้องตั้งกล้อง ต้องโชว์หน้า แสงต้องดี เสียงต้องเยี่ยม ต้องหา content มาลงช่องตลอดเวลา และใช้เวลานานกว่าจะมียอด Subscribe ทำให้คนหลายคนที่ทำ Youtube นั้นเลิกไปก่อน ส่วนคนที่ทำจนมีได้ยอดจาก Ads Revenue ก็พบว่าสุดท้ายแล้วตัวเองไม่ต่างจากพนักงานในบริษัทคนนึงเลย แต่เป็นบริษัทของตัวเอง ที่ต้อง Burn เวลาไปกับการทำคลิปเพื่อให้คนไม่ลืม และเพิ่มยอดอยู่ตลอดเวลา
ถ้าได้อ่านหนังสือ 4 hour work week ของ Tim Ferris เขาจะเน้นเรื่องการทำธุรกิจที่เจ้าของจะต้องแยกตัวเองออกจากระบบให้ได้ หนึ่งในใจความหลักๆก็คือการ Outsourcing
ถ้าเรามอง Youtube = Hobby มันก็คือ Hobby
ถ้าเรามอง Youtube = Business มันก็คือ Business
และ Business ที่ดีต้อง Outsource ได้ เพื่อให้เจ้าของ เอาเวลาไปทำอะไรที่จำเป็นจริงๆ ซึ่งก็มีคนพยายามทำมาแบบนั้นตั้งนานแล้ว เพิ่งจะมาพบว่ามันก็ทำได้เหมือนกันนี่หว่า เริ่มจากคนมันขึ้นเกียจออกกล้องนี่แหละ ก็เลยอัดเสียงแล้วก็ทำภาพแทน แต่ผลลัพธ์มันเกิดคาด เพราะคลิปมันดัน Viral ขึ้นมา ทำให้ทุกคนต้องหันกลับมามองว่า แล้วแก่นของ Youtube จริงๆแล้วมันคืออะไรกันแน่
หนึ่งในคำตอบคือ ”Content” คนเข้ามาใน Youtube เพื่อมาเสพ Content ที่ดี เพื่อ Educate ตัวเอง (เรื่องออกหน้ากล้องเป็นเรื่องรอง)
จึงเป็นที่มาของคำว่า “Youtube Automation”
Youtube Automation ไม่ใช่แนวการทำที่แบบกดคลิกเดียวแล้วตู้มเสร็จเรียบร้อยเหมือนชื่อ แต่เป็นการวาง Youtube อย่างเป็นระบบ แต่ในทุกส่วนของสามารถ Outsource ได้ หาคนมาทำแทนได้ เราไม่ต้องทำเองทั้งหมดทำให้ Youtube เข้าใกล้คำว่า Business แบบ 4 hour work week เข้าไปอีกขั้น
แล้วยิ่งกว่านั้น สมัยนี้การ Outsource มันโหดขึ้นกว่าเดิม เราไม่ต้อง Outsource ให้คนละไง เรา Outsource ให้ Ai ทำเกือบทั้งหมดเลย บางเรื่องมันเก่งกว่าคนเสียด้วย
นอกจากจะได้เงินจากค่า Ads Revenue แล้ว เรายังสามารถเอาสินค้าที่เป็น DigitalProduct ไปวางขายใน Content ของเราได้อีกด้วย ยิ่งสมัยนี้ยิ่งง่าย เพราะเราไม่จำเป็นต้องทำเว็บเองอีกต่อไปแล้ว มีบริการดีๆให้เลือกใช้เพียบ