Notion Template เป็นสินค้า Digital Product ที่มีราคาสูงอยู่แล้วในตลาด Etsy
ถ้าเข้าไป Search จะพบว่าสินค้าในกลุ่มนี้ ราคาจะ $10 ขึ้นไปทั้งนั้น เนื่องจากเป็นสินค้าในกลุ่ม Productivity ที่คนยอมจ่ายแพงเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเพราะคู่แข่งยังมีไม่เยอะและยังไม่สามารถใช้ Ai ในการทำได้ (เหมือน PNG ที่โดน Ai ถมมาพักนึงแล้ว)
แต่ก็ยังมี Notion Template ที่ราคาสูงเหนือไปกว่านั้นอีกแตะหลัก $99 หรือ $149 เลย Template เหล่านั้นมีอะไรที่แตกต่างกัน?
Notion Template ที่ขายแพง ไม่ได้ขายความสวยงาม แต่ขายพร้อม Frameworks ที่ทำให้เราใช้ชีวิตง่ายขึ้น
Notion Template ถ้าเราเป็นผู้เริ่มต้นใช้งาน จะใช้มันแค่จดบันทึก จดไอเดีย ทำ Check list ง่ายๆ วางแผนงานที่ไม่ซับซ้อน ไม่มีการเชื่อมโยงข้อมูลในส่วนต่างๆ เราทำขึ้นมาใช้เองก็จะมีรูปร่างหน้าตาที่เรียบง่าย มีการจัด Layout UI UX แบบที่ Notion เตรียมไว้ให้เป็นรูปแบบพื้นฐาน มันก็ไม่ต่างอะไรกับสมุดจดที่มีแต่หนาตาเรียบๆ ขาวๆ ไม่มีสีสัน ใช้งานได้ไหม มันก็ใช้ได้ แต่มันไม่ดึงดูดให้เราอยากใช้
ก็เลยมีคนออกแบบ Notion Template ที่มีหน้าตาสวยงาม ออกมาขาย เพราะมีการเพิ่มสี เพิ่ม icon ทำ widget ให้ Notion มีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปแล้วแต่สไตล์คนชอบ เหมือนสมุดจดที่มีลวดลาย
สินค้า Notion ในกลุ่มสวยงามนี้จะอยู่ rate ประมาณ $10-$30
เพราะขายหน้าตาเป็นหลัก เน้นคนเห็นแล้วชอบสไตล์ก็กดซื้อเลย คนที่ทำ Template กลุ่มนี้ขายต้องมีทักษะในด้านการออกแบบพอสมควร เพราะต้องคุมโทน Notion ให้อยู่ ลักษณะเดียวกับคนที่ออกแบบ website
กลุ่มนี้ทำไม่ยากแต่อย่างน้อยต้องเข้าใจว่า Notion คืออะไร ใช้งานอย่างไร มี element อะไรที่เอามาตกแต่งได้บ้าง ราคาขายที่คนยอมจ่ายแบบไม่คิดเยอะ ก็จะราวๆ $10-$30
แต่พอเริ่ม Advance ขึ้น การใช้งานจะไม่ใช่ง่ายๆแค่จดบันทึกแล้ว จะมีการใช้งาน Database เข้ามาด้วย
สินค้า Notion ในกลุ่ม Database rate ประมาณ $30-$70
เนื่องจากเป็นการออกแบบระบบที่มีความซับซ้อนขึ้นมา มี Database การผูกเชื่อมโยงชุดข้อมูลมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราจะออกแบบระบบรายรับรายจ่ายส่วนตัว เราจะแบ่งตารางจดอย่างไร ถ้าเรามีชุดข้อมูลสองชุด คือรายรับที่ได้มาจากงานประจำ และรายรับที่ได้มาจากงาน Freelance สองส่วนนี้เป็นเงินคนละส่วนกันแต่มีความเกี่ยวเนื่องกันเพราะมันคือรายได้รวมของเรา และพอท้ายปีเราก็ต้องเอามาคิดภาษี
แบบนี้เราจะต้องสร้างชุด Database ขึ้นมา สองชุด ที่มีการคำนวณบวกลบท้ายตาราง
แต่ในชีวิตของเรา มันไม่ได้มีเรื่องแค่สองสามเรื่องน่ะซิครับ มันเยอะไปหมดเลย ทั้งการงาน ชีวิตประจำวัน การเงิน โปรเจคต่างๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และทุกเรื่องมันเกี่ยวเนื่องกันพันยุ่งเหยิงไปหมด
ทำให้เราไม่สามารถมองเห็นภาพรวมของชีวิตได้เลยถ้าเราไม่จัดระเบียบทุกอย่าง ชีวิตมันก็วุ่นวาย
เลยมีคนออกแบบ Notion Template ที่คอยจัดการเรื่องราวเหล่านั้นให้เป็นระเบียบ และทำให้เราเห็นภาพรวมว่าชีวิตในแต่ละวันต้องทำอะไร อาทิตย์หน้าต้องทำอะไร เดือนหน้าต้องทำอะไร มันก็ง่ายแต่การดู (แต่เราต้องเรียนรู้วิธีใช้มันนะ)
สินค้า Notion ในกลุ่มที่จัดการ Database เยอะๆ ราคาไปได้ไกล $70++
พอมีความซับซ้อนมาขึ้นเราก็สามารถขายในราคาที่สูงขึ้นได้และลูกค้ายอมจ่ายอยู่แล้ว เพราะมันซับซ้อนและใช้เวลาทำนาน แต่ในเมื่อที่มันเป็น Digital Product เมื่อทำออกมาแล้วก็ขายได้เรื่อยๆ
Notion template ที่มีการจัดการ Database หลายๆชุด ส่วนใหญ่จะมีการผูกสูตร Formula เข้าไปด้วย เพื่อส่งเสริมการใช้งานเฉพาะกลุ่มให้ง่ายยิ่งขึ้น
พอสินค้ามันยิ่งเฉพาะกลุ่มมากขึ้น มันก็ยิ่งขายได้แพง
ยกตัวอย่างเช่น "Notion Template สำหรับคนทำ Content" ก็จะมี Database และตารางเวลาที่ต้องลง Content มี Resource อะไรที่ต้องเปิดดูเพื่อคิดงาน ก็จะรวมเอาไว้ในอีก Database เวลากดเพื่อใช้งานก็จะมีการผูกสูตรให้เลือกแล้วมีการดึงข้อมูลที่จำเป็นออกมา
Notion Template ที่เฉพาะทางแบบนี้ คนที่ออกแบบต้องเป็นคนที่เข้าใจ Content Creator จริงๆ รู้ว่าเข้าต้องการอะไร ไม่ต้องการอะไร อะไรสำคัญที่จะต้องดูทุกวัน อะไร
Notion สำหรับคนที่ขายประกัน ก็ย่อมมีการออกแบบหน้าตาที่แตกต่างออกไป เพราะคนกลุ่มนี้ย่อมต้องการมองข้อมูลในรูปแบบที่ไม่เหมือนคนอื่น พอจะเห็นภาพใช่ไหมครับ
ยิ่งมี Frameworks ครอบ ยิ่งขายได้แพงเช่นกัน
เคยได้อ่านหนังสือ Building A Second Brain ของ Tiago Forte ไหมครับ?
Tiago Forte บอกว่าสมองของคนเราอ่ะ มีขีดจำกัด ไม่สามารถจำทุกอย่างได้ เราจึงต้องจดมันลงไป แต่ถ้าจดเยอะแล้วไม่ได้ใช้มันก็รก ยิ่งรกชีวิตยิ่งวุ่นวาย เราเลยต้องจัดการการจดของเราให้เป็นระเบียบ และเราต้องมี Frameworks ในการเลือกว่าอะไรสำคัญ อะไรไม่สำคัญกับชีวิต นั่นก็คือ PARA Medthod
Project — ภารกิจระยะสั้นที่มีจุดสิ้นสุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว
Area — ความรับผิดชอบระยะยาวที่คุณต้องค่อยๆ จัดการไป ไม่มีจุดสิ้นสุดชัดเจน เช่น บันทึกการเงิน การพัฒณา product
Resource — สิ่งที่น่าจะมีประโยชน์ต่อเราในอนาคต
Archive — เนื้อหาที่ไม่ใช้แล้วจากสามอันข้างบน แต่เผื่อสักวันจะได้ใช้
ถ้าเราจัดเรื่องราวทุกอย่างในชีวิตตาม PARA Medthod และจดลงสมุดบันทึก เวลามาเปิดอ่านมันก็คงไม่ค่อยสะดวกนัก ถึงแม้ว่าตัว Medthod มันจะ Works ก็ตาม เพราะชีวิตทุกวันนี้เราแยกออกจากอะไรที่เป็น Digital ยากแล้ว ทั้งไฟล์ที่สำคัญ ทั้งลิงค์ที่แนบไฟล์งาน
Notion เลยเข้ามาเติมเต็มตรงนี้ได้เต็มๆ ยกตัวอย่างเช่น
Notion Template ที่อิง Frameworks Second Brain ที่ออกแบบโดย Easlo ขายในราคา $99 และขายดีมากด้วย
ขาย Notion Template ที่ไหน ถึงจะขายได้แพง
ถ้าเป็น Notion Template ที่เน้นความสวยงาม ในระดับเริ่มต้น Etsy ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเพราะขายง่ายและมี Traffic เข้ามาทันที
แต่ถ้าอยากขาย Notion ในระดับที่ Advance ขึ้นมามีราคาสูงขึ้น ยังไงก็ต้องทำ Traffic เอง เพราะคนที่จะยอมจ่ายให้เราเขาต้องเข้าใจและอินถึงแนวคิดของเราก่อน ง่ายที่สุดคือไปหา Platform สำหรับฝากไฟล์สินค้า Digital ถ้าเป็น Notion ผมแนะนำแค่ที่ Gumroad เพราะลูกค้า Notion คุ้นเคยกับ Platform นี้ และทำ Traffic เข้ามาที่ร้าน ซึ่งผมแนะนำ Youtube เพราะ Youtube เป็น Global เราสามารถเข้าถึงคนได้ทั่วโลก และเราไม่จำเป็นต้องออกกล้องเลยด้วยซ้ำ เรื่องภาษาเราก็ไม่ต้องกังวลมากเพราะสมัยนี้เราสามารถใช้ Ai ช่วยจัดการได้เกือบทั้งหมด
ยกตัวอย่างช่อง Easlo ที่ทำ Traffic เองจาก Youtube และ Twitter
จะเห็นว่าช่องของ Easlo เขาไม่ได้ลง content เยอะ ไม่ได้ออกหน้ากล้อง และยอด Sub ก็อยู่ในระดับกลางๆ แต่ทำยอดขาย Notion Template ได้เยอะมาก เพราะเขาสื่อสารโดยตรงไปที่กลุ่มลูกค้า Notion โดยเฉพาะ
และนี่คือแนวทางคร่าวๆ ถ้าเราจะขาย Digital Product ในราคาสูง เราต้องทำ Traffic เอง และ Traffic ที่มีคุณภาพที่สุด ยังเป็น Youtube
ใน Workshop Faceless YouTube ปลายปี ผมจะเปิดแนวทางการทำ YouTube แบบที่มีรายได้เข้ามาหลายทาง ไม่ต้องออกกล้องเน้นตลาดต่างประเทศ (แต่ตลาดในไทยก็ทำได้) ถ้าใครสนใจ อย่าลืม Subscribe หย่อน email กันไว้นะครับ ผมจะแจ้งเฉพาะคนที่ Subscribe ไว้ก่อนเท่านั้น ถ้าเต็มแล้วก็จะไม่ประกาศข้างนอกครับ